• ตามเรามา

  • facebook
  • linkedin
  • youtube
web@ispigment.com[email protected]

+86 17755187628+86 17755187628

ความแตกต่างของผงไมก้าและเม็ดสีมุกคืออะไร?

09 Mar 2023

ผงไมก้าเป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งขุดได้จากพื้นดิน ประกอบด้วยเกล็ดเล็กๆ แบนๆ ที่โปร่งใสหรือโปร่งแสงและมีความแวววาวคล้ายไข่มุก ผงไมก้ามักใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และงานฝีมือ เพื่อเพิ่มความแวววาวและความแวววาวให้กับผลิตภัณฑ์

ในทางกลับกัน เม็ดสีมุกเป็นเม็ดสีเอฟเฟกต์ประเภทหนึ่งที่เกิดจากการเคลือบเกล็ดแก้วด้วยออกไซด์ของโลหะหลายชนิด เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์หรือออกไซด์ของเหล็ก การเคลือบนี้ทำให้เกล็ดไมก้ามีประกายมุกที่เข้มข้นกว่าผงไมก้าธรรมชาติ เม็ดสีมุกมักใช้ในการใช้งานประเภทเดียวกับผงไมกา แต่มีคุณภาพการสะท้อนแสงที่โดดเด่นกว่า

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างผงไมกาและเม็ดสีมุกคือ เม็ดสีมุกเป็นผงไมกาที่ได้รับการดัดแปลง การเติมออกไซด์ของโลหะจะเปลี่ยนคุณสมบัติทางกายภาพและทางแสงของเกล็ดแก้ว ส่งผลให้เกิดประกายมุกที่สะท้อนแสงและเข้มขึ้น เม็ดสีมุกมักใช้ในงานที่ต้องการความโดดเด่นสะดุดตา

ความแตกต่างของผงไมก้าและเม็ดสีมุก

คุณจึงสามารถเข้าใจและจดจำ Pigment 2 ชนิดนี้ได้อย่างง่ายๆ

เม็ดสีมุก = ผงไมก้ารุ่นดัดแปลง

ในขณะที่ผงไมกามักใช้ในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือออร์แกนิกเนื่องจากแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ เม็ดสีมุกเป็นเม็ดสีเอฟเฟกต์ที่ทันสมัยและประณีตกว่า ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เม็ดสีมุกโดยทั่วไปมีราคาแพงกว่าผงไมกา เนื่องจากต้องใช้กระบวนการเพิ่มเติมในการสร้างเม็ดสีดังกล่าว
ผงไมกาเป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งใช้ในการเพิ่มชิมเมอร์และความแวววาวให้กับผลิตภัณฑ์ ในขณะที่เม็ดสีมุกเป็นเม็ดสีที่มีความเข้มและสะท้อนแสงมากขึ้นซึ่งเกิดจากการเคลือบเกล็ดไมกาด้วยออกไซด์ของโลหะ แม้ว่าจะเป็นวัสดุที่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็มีความแตกต่างอย่างชัดเจนในองค์ประกอบ คุณสมบัติทางแสง และราคา
tel

+86 17755187628

iso
iso
wechat

+86 13965049124

whatsapp

+8617755187628

ติดต่อเราตอนนี้
   

ทีมงานมืออาชีพในการให้บริการ !